เมื่อนึกถึง “น้ำเสีย” หลายคนนึกถึงน้ำล้างจาน น้ำซักผ้า หรือแม้แต่น้ำฝนที่ปนเปื้อนฝุ่น แต่ในระบบน้ำเสียจริง ๆ แล้ว น้ำเสียถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยหนึ่งในประเภทที่ “อันตรายที่สุด” คือ น้ำดำ (Blackwater) ซึ่งพบได้แทบทุกบ้านและทุกอาคาร
บทความนี้ C.M.P. GROUP จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่าน้ำดำคืออะไร ทำไมจึงเป็นอันตราย และมีวิธีจัดการอย่างไรให้ปลอดภัยตามหลักบำบัดน้ำเสีย
น้ำดำ (Blackwater) คืออะไร?
น้ำดำ (Blackwater) คือน้ำเสียที่เกิดจากการใช้งานใน โถส้วม ห้องน้ำ และปัสสาวะ ซึ่งจะมีทั้งของเสียมนุษย์ (human waste) และน้ำที่ใช้ในการชำระล้างรวมอยู่ด้วย
น้ำดำจะแตกต่างจาก น้ำเทา (Greywater) ซึ่งเป็นน้ำเสียจากกิจกรรมทั่วไป เช่น อ่างล้างหน้า อาบน้ำ ซักผ้า หรือล้างจาน เพราะน้ำเทามีสารปนเปื้อนน้อยกว่า และสามารถบำบัดง่ายกว่า
ทำไมน้ำดำจึงอันตรายต่อสุขภาพ?
1. มีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
ในน้ำดำมักพบเชื้อก่อโรค เช่น อีโคไล (E. coli) ซัลโมเนลลา (Salmonella) ไวรัส อหิวาตกโรค ตับอักเสบ หรือโรคระบบทางเดินอาหาร เพียงแค่สัมผัสหรือสูดดมละอองจากน้ำดำ ก็สามารถเสี่ยงติดเชื้อได้โดยไม่รู้ตัว
2. มีแบคทีเรียและไวรัสในปริมาณสูง
ในของเสียมนุษย์มีแบคทีเรียระดับสูงกว่าน้ำเสียประเภทอื่นหลายเท่า ทำให้การบำบัดของน้ำดำต้องใช้ระบบที่เข้มงวดกว่า ไม่เช่นนั้นอาจแพร่เชื้อสู่แหล่งน้ำสาธารณะได้อย่างรวดเร็ว
3. ปนเปื้อนสารเคมีและสารอินทรีย์
นอกจากเชื้อโรคแล้ว น้ำดำยังมีสารอินทรีย์ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส แอมโมเนีย รวมถึงสารเคมีจากสบู่ น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือยาฆ่าเชื้อ ซึ่งหากไม่บำบัดให้ได้มาตรฐานอาจทำลายระบบนิเวศได้
4. ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงและสะสมก๊าซพิษ
การหมักหมมของน้ำดำในถังส้วมหรือจุดรวมท่ออาจก่อให้เกิดก๊าซมีเทน (CH₄) และไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S) ที่เป็นอันตรายและมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
ตัวอย่างพื้นที่ที่พบ “น้ำดำ”
-โถส้วมและปัสสาวะ
-ห้องน้ำในบ้าน โรงเรียน โรงแรม โรงงาน
-อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า
-ค่ายพักคนงาน หรือสถานพยาบาล
ทุกพื้นที่ที่มีระบบสุขาภิบาลจำเป็นต้องจัดการน้ำดำอย่างถูกต้องตามมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษ
ผลกระทบเมื่อปล่อยน้ำดำลงสู่สิ่งแวดล้อมโดยไม่บำบัด
-มลพิษทางน้ำ เพิ่มค่า BOD/COD ทำให้น้ำเน่าเสีย
-การแพร่กระจายของเชื้อโรคสู่ชุมชน
-แหล่งน้ำสำหรับดื่มหรือทำการเกษตรปนเปื้อน
-เกิดกลิ่นเหม็นและแมลงวันจำนวนมาก
-ส่งผลเสียต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศโดยรวม
หลายประเทศรวมถึงไทยจึงมีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวดให้น้ำดำต้องผ่าน “ระบบบำบัดน้ำเสีย” ก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมทุกครั้ง
น้ำดำต้องบำบัดอย่างไร?
1. ถังบำบัดน้ำเสีย (Septic Tank / Bio Tank) ใช้หลักการตกตะกอนและย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์แบบไร้ออกซิเจน เหมาะกับบ้านพักและอาคารขนาดเล็ก
2. ระบบบำบัดแบบเติมอากาศ (Aerobic) เช่น Activated Sludge, SBR, MBR ช่วยลดค่า BOD/COD ได้ดี เหมาะกับโรงงานและอาคารขนาดใหญ่
3. ระบบกรองและฆ่าเชื้อ (Filtration & Disinfection) เช่น คลอรีน, โอโซน, หรือ UV-C เพื่อลดเชื้อโรคให้ได้ตามมาตรฐานก่อนปล่อยออกสู่ธรรมชาติ
อุปกรณ์ระบบน้ำเสียที่ช่วยจัดการน้ำดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
C.M.P. GROUP เป็นผู้จัดจำหน่ายและให้คำปรึกษาอุปกรณ์สำหรับระบบบำบัดน้ำเสีย เช่น
-ปั๊มเคมีและปั๊มสูบสารเคมี
-วาล์ว ระบบควบคุมการไหล
-ระบบกรองและถังกรอง
-อุปกรณ์อุตสาหกรรมเกี่ยวกับน้ำ
สรุป
น้ำดำ (Blackwater) คือน้ำเสียจากโถส้วมและปัสสาวะที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค แบคทีเรีย และสารอินทรีย์ที่อาจเป็นอันตรายต่อทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การจัดการอย่างถูกวิธีด้วยระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐาน เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน รวมถึงลดผลกระทบต่อธรรมชาติในระยะยาว
หากต้องการคำแนะนำเรื่องระบบบำบัดน้ำเสีย หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ทีมผู้เชี่ยวชาญของ C.M.P. GROUP พร้อมช่วยเหลือครบวงจร
