หลายคนที่ใช้งาน ปั๊มเคมี (Chemical Pump) มักจะมองว่า หากปั๊มยังหมุนได้และส่งของเหลวได้ตามปกติ ก็ถือว่ายังใช้งานได้ดี แต่ในความเป็นจริง ปั๊มของคุณอาจกำลังเผชิญกับ “ภัยเงียบ” ที่ค่อย ๆ กัดกินอุปกรณ์ภายในโดยที่คุณไม่รู้ตัว — ปรากฏการณ์นั้นคือ “Cavitation” (คาวิเทชัน)
เสียงดังคล้ายกรวดทรายในตัวปั๊ม หรือแรงสั่นสะเทือนผิดปกติขณะทำงาน อาจเป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่าปั๊มของคุณกำลังเกิด Cavitation ซึ่งหากปล่อยไว้นาน จะทำให้ปั๊มเสียหายถาวร ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนทั้งชุด ส่งผลให้ต้นทุนบำรุงรักษาสูงขึ้นอย่างไม่จำเป็น

Cavitation คืออะไร?
Cavitation (คาวิเทชัน) คือปรากฏการณ์ที่ของเหลวภายในปั๊มเกิดการเปลี่ยนสถานะเป็น “ไอ” หรือเกิด “ฟองอากาศ” ขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากแรงดันภายในของปั๊ม (Suction Side) ต่ำกว่าความดันไอของของเหลว
เมื่อฟองอากาศเหล่านี้เคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณแรงดันสูงใกล้ใบพัด มันจะ “แตกตัว” (Implode) อย่างรุนแรง การแตกตัวนี้จะสร้าง คลื่นกระแทกขนาดเล็ก (Micro Shock Waves) ที่มีพลังมหาศาลพอจะ “กัดกร่อน” ใบพัด ตัวเรือน และชิ้นส่วนอื่น ๆ ภายในปั๊ม
หากเกิดซ้ำบ่อย ๆ จะทำให้พื้นผิวโลหะเป็นหลุม มีรอยบิ่น หรือแตกหัก ซึ่งนอกจากจะลดประสิทธิภาพการทำงานแล้ว ยังทำให้ของเหลวที่สูบปนเปื้อนโลหะและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่เกิดจากการสึกกร่อน
ทำไม Cavitation ถึงเกิดขึ้นบ่อยใน “ปั๊มเคมี”?
ในระบบปั๊มเคมี มักต้องสูบของเหลวที่มีความหนืดสูง หรือของเหลวที่มีอุณหภูมิสูง เช่น กรด ด่าง หรือสารเคมีที่มีจุดเดือดต่ำ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่เพิ่มโอกาสให้เกิดแรงดันต่ำภายในระบบดูด และนำไปสู่การเกิด Cavitation ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ปั๊มเคมีมักถูกใช้งานในสภาวะต่อเนื่อง (Continuous Operation) หากไม่ได้ออกแบบระบบให้เหมาะสม เช่น ท่อดูดสั้นเกินไป ท่อมีขนาดเล็ก หรือไม่มีวาล์วควบคุมแรงดัน ก็จะทำให้เกิดแรงดันตกคร่อม (Pressure Drop) และเกิด Cavitation ได้ในที่สุด

สาเหตุหลักของการเกิด Cavitation
1. แรงดันดูดต่ำเกินไป (NPSHa ต่ำ)
แรงดันดูด (Net Positive Suction Head Available – NPSHa) คือค่าความดันที่เหลืออยู่ก่อนของเหลวเข้าสู่ปั๊ม หากค่านี้ต่ำกว่าที่ปั๊มต้องการ (NPSHr) จะทำให้ของเหลวเริ่มกลายเป็นไอ และเกิดฟอง Cavitation ได้ทันที
2. อุณหภูมิของของเหลวสูงเกินไป
เมื่ออุณหภูมิของเหลวเข้าใกล้ “จุดเดือด” แม้เพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอให้ของเหลวบางส่วนระเหยเป็นไอได้ ทำให้เกิดฟอง Cavitation ในระบบปั๊ม
3. การอุดตันหรือท่อดูดขนาดเล็กเกินไป
หากท่อดูดมีสิ่งอุดตันหรือขนาดไม่เหมาะสม จะทำให้การไหลของของเหลวไม่สม่ำเสมอ เกิดแรงดันตกต่ำเฉพาะจุด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ Cavitation
4. ความเร็วของของเหลวในท่อเร็วเกินไป
ของเหลวที่ไหลเร็วเกินไปจะลดแรงดันในท่อ (ตามหลัก Bernoulli’s Principle) ส่งผลให้แรงดันลดต่ำจนเกิดฟองอากาศได้
5. ระดับของเหลวในถังต้นทางต่ำ
หากถังเก็บสารเคมีมีระดับของเหลวต่ำเกินไป ปั๊มจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดูดของเหลว ส่งผลให้แรงดันลดและเกิด Cavitation ได้ง่าย

สัญญาณเตือนของ Cavitation
- มี เสียงดังคล้ายกรวดหรือโลหะกระทบกัน ภายในปั๊ม
- ปั๊ม สั่นแรงผิดปกติ
- ปริมาณการไหล (Flow Rate) ลดลง
- ความดันขาออกลดลง หรือเกิดการกระเพื่อมไม่สม่ำเสมอ
- ปั๊มเริ่มมี ความร้อนสะสมมากกว่าปกติ
- เมื่อเปิดตรวจสอบ พบว่าใบพัดหรือผิวโลหะเริ่มมีรอยหลุมหรือสึกกร่อน
ผลกระทบของ Cavitation ต่อปั๊มเคมี
หากปล่อยให้ Cavitation เกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยไม่แก้ไข จะทำให้เกิดความเสียหายหลายด้าน ได้แก่
- การสึกกร่อนของใบพัดและตัวเรือนปั๊ม (Erosion Damage)
คลื่นกระแทกที่เกิดจากฟองอากาศแตกตัว จะกัดกร่อนพื้นผิวโลหะจนเป็นหลุมเล็ก ๆ นับพันจุด
- สมรรถนะปั๊มลดลง (Performance Loss)
เมื่อใบพัดสึกหรอ รูปร่างเปลี่ยนไป ส่งผลให้การส่งของเหลวไม่มีประสิทธิภาพ
- การสั่นสะเทือนและเสียงดัง (Noise & Vibration)
ส่งผลต่อการสึกหรอของเพลา ซีล และตลับลูกปืนเร็วกว่าปกติ
- อายุการใช้งานสั้นลง (Reduced Lifespan)
ปั๊มที่เกิด Cavitation บ่อย จะมีอายุการใช้งานลดลงมากกว่า 50%
- ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงสูงขึ้น (Maintenance Cost Increase)
เพราะต้องเปลี่ยนอะไหล่บ่อย ซ่อมบำรุงถี่ และอาจต้องหยุดการใช้งานชั่วคราวส่งผลต่อกระบวนการผลิต

วิธีป้องกัน Cavitation ในปั๊มเคมี
1. ออกแบบระบบท่อดูดอย่างเหมาะสม
ใช้ท่อดูดขนาดใหญ่เพียงพอ ไม่ยาวหรือมีข้อต่องอเกินจำเป็น และติดตั้งในแนวทางที่ช่วยให้ของเหลวไหลได้อย่างราบรื่น
2. ตรวจสอบแรงดันดูด (NPSHa) ให้สูงกว่าค่าที่ปั๊มต้องการ (NPSHr)
หากแรงดันไม่พอ ควรปรับระดับของเหลวในถังต้นทาง หรือเลือกใช้ปั๊มรุ่นที่ออกแบบให้รับแรงดันต่ำได้ดีกว่า
3. ควบคุมอุณหภูมิของของเหลว
หลีกเลี่ยงการสูบของเหลวที่มีอุณหภูมิสูงเกินพิกัด หรือใช้ระบบหล่อเย็นเพื่อลดอุณหภูมิในท่อ
4. ตรวจเช็กการอุดตันในระบบเป็นประจำ
ฟิลเตอร์และวาล์วดูดควรได้รับการทำความสะอาดและตรวจสอบเป็นระยะ เพื่อป้องกันแรงดันตก
5. เลือกใช้ปั๊มเคมีคุณภาพสูงจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้
ปั๊มที่มีวัสดุต้านการกัดกร่อนและผ่านการออกแบบให้รองรับแรงดันต่ำ จะช่วยลดโอกาสการเกิด Cavitation ได้อย่างมาก
สรุป: ป้องกันก่อนสาย ดีกว่าซ่อมทีหลัง
Cavitation เป็นปรากฏการณ์ที่หลายคนมองข้ามเพราะไม่เห็นผลทันที แต่ในระยะยาวมันคือศัตรูตัวร้ายที่ค่อย ๆ ทำลายปั๊มจากภายใน การทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีป้องกันตั้งแต่ต้น จะช่วยยืดอายุการใช้งานของปั๊ม ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความปลอดภัยในการผลิตหากคุณกำลังมองหา ปั๊มเคมีคุณภาพสูง ปลอดภัยจากการกัดกร่อน และออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงจาก Cavitation สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ >>ที่นี่<< ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปั๊มเคมีครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ