3W1H เกี่ยวกับวาล์วโซลินอยด์ (Plastic Solenoid Valves) 

3W1H เกี่ยวกับวาล์วโซลินอยด์ (Plastic Solenoid Valves) 

วาล์วโซลินอยด์เป็นอุปกรณ์ควบคุมการไหลของของเหลวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม เนื่องจากความสามารถในการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ บทความนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลสำคัญของประเภท หลักการทำงาน และการใช้งานของ วาล์วโซลินอยด์ ให้มากขึ้น

I. WHAT วาล์วโซลินอยด์มีรูปแบบ "อะไร" บ้าง? 
วาล์วโซลินอยด์ถูกแบ่งออกเป็นสองรูปแบบหลักตามกลไกการทำงาน
A. วาล์วโซลินอยด์แบบออกฤทธิ์โดยตรง (Direct-Acting Solenoid Valves) 
-หลักการ: วาล์วเปิดและปิดโดยตรงด้วยแรงจากขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้า (Solenoid Coil) เพียงอย่างเดียว 
-จุดเด่น: สามารถทำงานได้โดยไม่ขึ้นอยู่กับความดันหรืออัตราการไหลในเส้นท่อ และไม่ต้องใช้ความดันแตกต่างขั้นต่ำในการเปิด/ปิด 
-การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานที่มีแรงดันต่ำ หรือเมื่อต้องการการทำงานที่รวดเร็วมาก 

B. วาล์วโซลินอยด์แบบมีตัวนำร่อง (Pilot-Operated หรือ Servo-Assisted) 
-หลักการ: การเปิดและปิดวาล์วอาศัยการทำงานร่วมกันของขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้า (เพื่อควบคุมวาล์ว "นำร่อง") และแรงดันของของเหลวในท่อ (เพื่อขับเคลื่อนไดอะแฟรมหลัก) 
-ข้อกำหนด: ต้องการความดันแตกต่างขั้นต่ำ (โดยทั่วไปประมาณ 5 PSI) เพื่อให้วาล์วสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ 
-การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานที่มีแรงดันสูงกว่าและอัตราการไหลที่มากกว่าแบบออกฤทธิ์โดยตรง 
 
II. HOW วาล์วโซลินอยด์ "ทำงานอย่างไร"? 
A. กลไกแบบออกฤทธิ์โดยตรง 
เมื่อจ่ายพลังงานให้กับขดลวด แรงแม่เหล็กจะดึงแกนวาล์วให้ยกขึ้น เอาชนะแรงสปริงและเปิดทางให้ของไหลผ่าน เมื่อตัดพลังงาน แรงสปริงจะดันแกนวาล์วให้กลับสู่ตำแหน่งเดิมเพื่อปิดกั้นการไหล 

B. กลไกแบบมีตัวนำร่อง 
วาล์วจะใช้แรงดันของของเหลวในท่อมากดทับด้านบนของแผ่นไดอะแฟรมหลัก เมื่อขดลวดมีพลังงาน จะเปิดวาล์ว "นำร่อง" ทำให้แรงดันที่กดทับอยู่ระบายออกไป ความดันทางเข้าของของเหลวจะดันไดอะแฟรมหลักขึ้นและเปิดวาล์ว เมื่อตัดพลังงาน วาล์วนำร่องจะปิด และแรงดันจะกลับมาสะสมเหนือไดอะแฟรม ทำให้วาล์วปิดสนิท 
 
III. WHEN "เมื่อไหร่" ที่ควรใช้วาล์วโซลินอยด์? 
วาล์วโซลินอยด์มักถูกเลือกใช้ในสภาวะที่ 
1. ต้องการความเร็วในการทำงาน: สำหรับงานที่ต้องเปิด-ปิดสับเปลี่ยนรวดเร็ว 
2. ต้องการการซีลที่แน่นหนา: สำหรับวาล์วที่ต้องการการซีลแบบ Fail-Safe (ปิดหรือเปิดปกติ) ที่ปราศจากการรั่วไหล 
3. ข้อจำกัดด้านพื้นที่: ต้องการวาล์วที่มีขนาดทางกายภาพและน้ำหนักที่กะทัดรัด 
4. งบประมาณที่จำกัด: มีต้นทุนเริ่มต้นที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับวาล์วควบคุมชนิดอื่นในขนาดเดียวกัน 
 
IV. WHY "ทำไม" จึงควรใช้วาล์วโซลินอยด์ แทนที่จะเป็นวาล์วลูกบอลที่ควบคุมด้วยมอเตอร์?  
A. ความเร็วในการทำงาน 
วาล์วโซลินอยด์มีความเร็วที่เหนือกว่าอย่างมาก 
-วาล์วโซลินอยด์แบบออกฤทธิ์โดยตรง: ทำงานในระดับ มิลลิวินาที (30-40 มิลลิวินาที) 
-วาล์วโซลินอยด์แบบมีตัวนำร่อง: ทำงานเร็วกว่ามาก แม้จะช้ากว่าแบบออกฤทธิ์โดยตรง (ประมาณ 1 วินาที) 
-วาล์วลูกบอลมอเตอร์: มีรอบการทำงานช้ากว่ามาก (มักใช้เวลา 5 ถึง 6 วินาที) 
-ผลลัพธ์: วาล์วโซลินอยด์จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและความรวดเร็ว เช่น การควบคุมค่า pH 

B. การออกแบบแบบ Fail-Safe 
วาล์วโซลินอยด์ส่วนใหญ่มักถูกออกแบบให้เป็น Fail-Safe ตามปกติ (เช่น ปิดโดยอัตโนมัติเมื่อไฟฟ้าดับ) ในขณะที่วาล์วลูกบอลที่ควบคุมด้วยมอเตอร์นั้น หากต้องการฟังก์ชัน Fail-Safe มักจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่มีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง 
 
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ C.M.P. GROUP >>ที่นี่<<  เพื่อรับคำปรึกษาสำหรับอุตสาหกรรมของคุณ 
 
แหล่งที่มา: https://plastomatic.com/pomsolenoid.html

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้